เมืองเก่าฮอยอัน
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view71662.html
เมืองเก่าฮอยอันเป็นเมืองขนาดเล็กตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม อีกทั้งภายในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า มีอาคารต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมทั้งตะวันตกและตะวันออก เช่น บ้าน โคมไฟโบราณแบบจีน สะพานข้ามคลองที่มีการดีไซน์แบบประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เมืองฮอยเก่าอันจะได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก นอกจากนี้ ยังสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ส่วนการสัญจรไปมาในเมืองนั้นก็สะดวก นักท่องเที่ยวสามารถเดิน ปั่นจักรยาน หรือขับรถจักรยานยนต์ก็ได้ เพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ในยามค่ำคืนหลังสี่ทุ่มไปแล้วจะค่อนข้างเงียบ แต่ยังพอมีผับบาร์ ร้านขายเครื่องดื่มเปิดให้บริการอยู่บ้าง ที่สำคัญผู้คนในเมืองเป็นมิตร อัธยาศัยดี มีน้ำใจกับนักท่องเที่ยว
ข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองเก่าฮอยอันคนละ 181 บาท (120,000 ดงเวียดนาม) นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองเก่าต้องแต่งกายสุภาพ เช่น ผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ต ผู้หญิงห้ามสวมเสื้อไม่มีแขนและกระโปรงสั้นเหนือเข่า
Amazing Rice terraces (นาขั้นบันได)
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view89462.html
ภูเขา Mt Fansipan…3,143 m. Vietnam ยอดเขาที่สูงที่สุดในอินโดจีน และสูงที่สุดอันดับ 9 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ
วันนี้ผมพกน้องชาย (ยังเรียนมหาลัยอยู่เลย) ไปออกทริปถ่ายภาพ นาขั้นบันไดด้วยกัน
(น้องคนนี้ถ่ายสวยม๊ากๆ) จึงเป็นกระทู้แจ่มระหว่างผม สราวุฒิ อินทรบ และ น้อง Por Pathompat คนละ 15 ภาพครับเชิญติชมได้เต็มทีเลยนะครับ (ภาพถ่ายจาก sapa และ Mu cang chai)
ประเทศเวียดนามครับ
http://pantip.com/topic/32023487
อุโมงค์กู๋จี
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view71662.html
อุโมงค์แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิด ที่สำหรับประชุมของกองกำลังเวียดกงในสมัยที่รบกับสหรัฐอเมริกา อุโมงค์ถูกสร้างขึ้นให้มีหลายชั้นและแต่ละชั้นจะมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความอยู่รอดของทหาร ภายในอุโมงค์ประกอบไปด้วยโรงพยาบาล ห้องประชุม และห้องพัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะได้รับชมหนังสั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเวียดนามก่อน เพื่อจะได้เข้าใจความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโฮจิมินห์ 70 กิโลเมตร และเปิดให้บริการตลอดทั้งปี
ปราสาทหมีเซิน
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view71662.html
ปราสาทหมีเซินเป็นสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมาจากอาณาจักรจามปาหรือช่วงศตวรรษที่ 4-15 สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมของฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีน ในอดีตปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับบูชาพระศิวะ นอกจากตัวปราสาทแล้วยังมีรูปปั้น วัด และถูกห้อมล้อมไปด้วยป่าดงดิบ ในสมัยก่อนมีสิ่งก่อสร้างโบราณกว่า 70 หลัง แต่ในช่วงสงครามเวียดนามโบราณสถานฮินดูนี้ถูกระเบิดตกใส่ไปหลายแห่ง จนปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 22 หลังเท่านั้น และที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตั้งอยู่ในชุมชน Duy Tan จังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) หรืออยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองดานัง 70 กิโลเมตร และห่างจากเมืองฮานอย 40 กิโลเมตร และเปิดทำการตลอดทั้งปี สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการมาเยี่ยมชม คือ ช่วงเช้า เพราะอากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป
พระราชวังเว้
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view71662.html
เป็นพระราชวังของราชวงศ์เหงียน (Nguyen Dynasty) ซึ่งยังคงหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ภายในประกอบด้วย พระราชวัง สุสานของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ เจดีย์ วัดวาอาราม ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 19 แต่สำหรับสิ่งก่อสร้างที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก คือ ประตูทางเข้าพระราชวัง (Ngo Mon Gate) ซึ่งเป็นทางเดินเข้าสำหรับกษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ และสุสานพระเจ้ามิงห์หมาง (The Tomb of Emperor Minh Mang) ซึ่งนอกจากจะเป็นพระราชวังที่ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ยังมีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้กัน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเวียดนาม เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่นักท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยงการมาในช่วงฤดูฝนหรือช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม
เจดีย์มังกร
ภาพจาก http://travel.kapook.com/view87094.html
เจดีย์มังกร เป็นวัดพุทธนิกายเซนที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ภายในประกอบไปด้วยหอระฆังที่สูงที่สุดในเวียดนามที่มีความสูงถึง 37 เมตร และผนังด้านบนภายในวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน นอกจากนี้ ผู้ที่มาเยือนยังสามารถผ่อนคลายอารมณ์ได้จากการชมทะเลสาบเล็ก ๆ และสวนดอกไม้ได้อีกด้วย
ทะเลสาบแห่งความโศกเศร้า
ทะเลสาบแห่งความโศกเศร้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักหนุ่มสาวที่นิยมมาพายเรือ หรือแล่นเรือยนต์ชมวิวด้วยกัน โดยทะเลสาบแห่งนี้เดิมเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติ ก่อนถูกกลุ่มชาวฝรั่งเศสใช้เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำ