Asean Tourism

เกาะต่างๆ

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะที่โดดเด่นด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวนวลละเอียดราวกับผงแป้ง  หัวใจของสิมิลันคือ หินเรือใบที่โดดเด่นเผยแพร่ไปทั่วโลก จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสิมิลัน รวมทั้งแหล่งดำน้ำของหมู่เกาะแห่งนี้ยังชื่อได้ว่าละลานตาเป็นอย่างยิ่ง  อีกทั้งมีจุดชมวิวลานข้าหลวง เป็นจุดชมวิวทางทะเลยในมุมสูงที่สสามารถเห็นวิวของหมู่เกาะสิมิลันได้ในมุมกว้าง ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก เกาะสิมิลัน

 

เกาะตาชัย

เกาะตาชัย

เกาะตาชัย

มีลักษณะทางธรรมชาติที่คล้ายคลึงกับสิมิลันไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาว ละเอียดนุ่มเท้าชายหาดทรายขาวที่ทอดยาวไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร  มีจุดดำน้ำดูปะการัง ที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด  มีแนวปะการังที่สวยงามและค่อนข้างสมบูรณ์ด้วยปะการังอ่อนสีแดง  นอกจากนี้ด้านหลังเกาะยังมีจุดชมวิวทางทะเลที่งดงามอีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก เกาะตาชัย

 

ทะเลแหวก กระบี่

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก เกาะปอดะ กระบี่

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen Thailand ที่มีจุดสวยงามอย่าง มหัศจรรย์ ซึ่งเราสามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ  การท่องเที่ยวทะเลแหวก จะนิยมท่องเที่ยวทั้งหมด 4 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะปอดะ  ซึ่งสามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก ทะเลแหวก

 

เกาะกำ

เกาะกำ

หมู่เกาะกำ ระนอง

หากพูดถึงทะเลระนองหลายคนมักนึกถึงเกาะพยาม แต่จะมีกี่คนที่รู้จัก หมู่เกาะกำ เกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์รอบเกาะ หมู่เกาะกำเป็นหมู่เกาะที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน  มีเกาะกำใหญ่เป็นเกาะศูนย์กลางและรายล้อมด้วย เกาะกำนุ้ย เกาะกำกลางเกาะกำตก  เกาะญี่ปุ่น และสุดท้ายเกาะค้างคาวซึ่งมีหาดทรายขายว น้ำทะเลสีฟ้าใสคล้ายกับเกาะสิมิลัน ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก หมู่เกาะกำ 

เกาะพยาม ระนอง

เกาะพยาม

เกาะพยาม ระนอง

เกาะพยามเป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัด  บรรยากาศสงบ มีความหลากหลายทางธรรมชาติ  มีชายหาดที่สวยงามขาวสะอาดหลายแห่ง ได้แก่ อ่าวใหญ่ และอ่าวเขาควาย รวมถึงพระอาทิตย์ตกสวยงาม ความงามของธรรมชาติที่มีความแปลกตาของเกาะพยาม คือ หินทะลุ ปฎิมากรรมรูปร่างคล้ายซุ้มประตู ลักษณะคล้ยกับเกาะไข่ ตะรุเตา ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก เกาะพยาม 

 

เกาะราชา

เกาะราชา

เกาะราชา  เกาะเฮ ภูเก็ต

หากใครได้มาเที่ยวภูเก็ต โปรแกรมทัวร ์เกาะราชา เกาะเฮเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดซึ่งสามารถเที่ยวได้พร้อมกันใน 1 วัน เกาะราชาหรือเกาะราชาใหญ่ มีหาดทรายขาวสะอาด มีหาดทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้าย เกือกม้าเรียกว่า อ่าวปะตก มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาดลักษณะคล้ายทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลัน

เกาะเฮ เกาะที่มีหาดทรายอันขาวละเอียด มีปะการังน้ำตื้นที่ยังอุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลใส มองเห็นฝูงปลาแหวก ว่ายมากมาย โลกใต้น้ำที่อยู่ทางด้านตะวันตก มีปะการังสมอง ปะการังผักกาด ปะการังเขากวางปะการังเป็นแนวยาว และเหล่าปลาน้อยใหญ่ หลากสีสันสวยงาม

ข้อมูลเพิ่มเติม เกาะราชา  เกาะเฮ 

เกาะห้อง

เกาะห้อง

หมู่เกาะห้อง กระบี่

หมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ อาทิเช่น เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะผักเีบี้ย เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น โดยมีเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละเป็นเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน มีแนวปะการังทั้งในระดับน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่ การดำน้ำ  เกาะห้อง มีจุดที่น่าสนใจได้แก่ “ อ่าวบิเละ ” เป็นอ่าวที่มี หาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส  สีเขียวมรกต มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป  ถือว่าเป็นแหล่งพายเรือคายัคและ แหล่งดำน้ำ ดูปะการังน้ำตื้นที่สวยงามจนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 เกาะ ที่มีหาดน่าเที่ยวและสะอาดที่สุดในโลก

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก เกาะห้อง 

 

เกาะเต่า

เกาะเต่า

เกาะเต่า

เกาะดูโอ้ของเกาะนางยวน มีชายหาดหลายหาดที่มีน้ำทะเลสวยใสให้ได้เที่ยว อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตยตกได้สวยงามอีกจุดหนึ่ง  เกาะเต่านับเป็นเกาะแห่งทะเลฝั่งอ่าวไทยที่มีโลกใต้น้ำที่สวยที่สุดเหมาะแก่ทั้ง การดำน้ำตื้น (Skin Diving) และการดำน้ำลึก (Scuba Diving) ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก เกาะเต่า

 

เกาะกระดาน

เกาะกระดาน

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

เกาะกระดาน อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง จังหวัดตรัง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน เกาะกระดานมีชายหาดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง ซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ บนเกาะมีที่พักบริการทั้งของเอกชน และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงมีบริการร้านอาหาร และแพ็กเกจท่องเที่ยวทะเลตรัง
โดยรอบเกาะกระดานมีชายหาดอยู่ 4 แห่ง ได้แก่ หาดเกาะกระดาน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ มีชายหาดขาวยาวประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณด้านหน้าของชายหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง ซึ่งยาวตลอดแนวชายหาด, หาดอ่าวเนียง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร ด้านหน้าชายหาดนักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำดูปะการัง, หาดอ่าวไผ่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ด้านหน้าของชายหาดไม่มีแนวปะการัง แต่สามารถมองเห็นเกาะเชือก เกาะแหวน เกาะมุก, หาดอ่าวช่องลม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ อยู่เหนือที่ทำการพิทักษ์อุทยานฯ ห่างไปประมาณ 800 เมตร สามารถเดินเท้าขึ้นเนินไปชมดวงอาทิตย์ตก มองเห็นเกาะรอกได้อย่างชัดเจน

 

ตะรุเตา

ตะรุเตา

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

เกาะตะรุเตา นับเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีพื้นที่ 152 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีสภาพเป็นป่าดิบชื้น ซึ่งยังมีพรรณไม้และสัตว์ป่าที่น่าสนใจจำนวนไม่น้อย และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน นอกจากนี้ ยังมีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่ง และในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีพันธุ์ปลามากมายหลายชนิด รวมทั้งเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 4 ชนิด
ทั้งนี้ นอกจากสภาพธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว เกาะตะรุเตายังมีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ โดยในปี พ.ศ. 2479 รัฐบาลมีนโยบายให้กรมราชทัณฑ์จัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งนิคมฝึกอาชีพ และเป็นสถานที่กักกันนักโทษ เกาะตะรุเตาซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่ง เต็มไปด้วยปัจจัยทางธรรมชาติที่เป็นอุปสรรคต่อการหลบหนี ก็ได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่จัดตั้งนิคมดังกล่าว มีการจัดสร้างอาคารที่ทำการ บ้านพักของผู้คุม เรือนนอนนักโทษ และโรงฝึกอาชีพขึ้นที่อ่าวตะโละวาว และอ่าวตะโละอุดัง แต่ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ประกาศยกเลิกนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา หลังจากนั้นเกาะตะรุเตาก็ถูกทิ้งร้างเป็นเวลา 26 ปี จนกระทั่งวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้ในขณะนั้น ได้ประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตาขึ้น โดยนับเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย
ส่วนกิจกรรมบนเกาะตะรุเตาที่น่าสนใจ คือ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จากที่ทำการอุทยานฯ บริเวณอ่าวพันเตมะละกามีเส้นทางเดินเท้าผ่านป่าดงดิบไปอ่าวตะโละวาว ระยะทาง 12 กิโลเมตร สองข้างทางสภาพเป็นป่าดงดิบหนาทึบ ร่มรื่นด้วยไม้นานาพรรณ มีสัตว์ป่า เช่น หมูป่า กระจง และนกน่าสนใจหลายชนิด โดยเฉพาะนกเงือกที่พบได้บ่อย เส้นทางหนึ่งไปอ่าวจาก อ่าวเมาะและจนถึงอ่าวสน ระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จะผ่านป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ และยังเหมาะแก่การดูนกเช่นนกเงือก นกแซงแซว และเส้นทางล่องเรือรอบเกาะ เพื่อศึกษาธรรมชาติแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยอุทยานฯ จะจัดเรือบริการพร้อมเจ้าหน้าที่นำทางชมหาดทรายต่าง ๆ ใช้เวลาในการล่องเรือ 1 วัน ผู้สนใจติดได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะ

 

เกาะกูด

เกาะกูด

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

เกาะกูด เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทย ในน่านน้ำทะเลตราด มีเนื้อที่ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทยและคนเขมรในเกาะกงที่อพยพเข้ามา เมื่อเมืองปัจจันตคีรีเขตรตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 หมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันชาวเกาะยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรม ทำให้ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูด คือ น้ำตกคลองเจ้า จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี
ส่วนทางฝั่งตะวันตกของเกาะตั้งแต่อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ แหลมหินดำ หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ แหลมบังเบ้า หาดอ่าวพร้าว ไปจนสุดปลายแหลมเทียน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกที่น่าสนใจ ได้แก่ อ่าวสับปะรด แหลมศาลา อ่าวยายเกิด อ่าวคลองหิน อ่าวจาก ล้วนแต่เป็นหาดที่มีหาดทรายสวยงาม และน้ำทะเลใส มีธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้ บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แนวปะการังนานาชนิด และปลาทะเลสีสันสวยงาม

 

เกาะรอก

เกาะรอก

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

เกาะรอก เป็นเกาะหนึ่งที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบไปด้วย เกาะรอกนอก และ เกาะรอกใน ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น ทั้งสองเกาะนับเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามและน้ำทะเลใส อีกทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาทะเลสวยงามและปลาการ์ตูนจำนวนมาก รวมถึงมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติขึ้นไปยอดเขา ทำให้สามารถมองเห็นผืนน้ำทะเลได้อย่างสวยงาม และตรงจุดร่องน้ำระหว่างเกาะรอกนอกและเกาะรอกในนี้ยังเป็นทำเลที่ดีในการปักหลักชมพระอาทิตย์ตกอีกด้วย โดยหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะตั้งอยู่บนเกาะรอกใน สามารถขึ้นไปพักค้างแรมได้เฉพาะเต็นท์เท่านั้น

ทั้งนี้ หมู่เกาะรอกกำหนดปิดไม่ให้เดินทางเที่ยวชมในช่วงมรสุม ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-15 พฤศจิกายนในแต่ละปี ฉะนั้น ก่อนเดินทางไปควรตรวจสอบกำหนดการเปิดให้เที่ยวชมกับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาอีกครั้งหนึ่ง

 

เกาะพิทักษ์

เกาะพิทักษ์

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

เกาะพิทักษ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 14 ตำบลบางน้ำจืด เป็นเกาะขนาดเล็ก ห่างจากที่ว่าการอำเภอหลังสวนประมาณ 25 กิโลเมตร มีเรือหางยาวของชาวบ้านบริการจากท่าเรืออ่าวครกไปยังเกาะพิทักษ์ ในอดีตชาวบ้านเรียกว่า “เกาะผีทัก” ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า มีเรือประมงลอยเรือหาปลามายังเกาะพิทักษ์ และมองเห็นมีชาวบ้านบนเกาะกวักมือเรียก แต่พอเข้าไปยังเกาะกลับไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะเลยแม้แต่คนเดียว ปัจจุบันบริเวณเกาะมีโขดหินสวยงาม น้ำทะเลใส สามารถเล่นน้ำได้ และมีหมู่บ้านชาวประมงกระจายอยู่รอบเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกมีหาดทรายขนาดเล็ก ๆ ด้านหลังเกาะมีจุดชมวิวสูงประมาณ 200 เมตร หากวันที่น้ำทะเลลดระดับสามารถเดินเท้าจากท่าเรืออ่าวครกข้ามมายังเกาะได้ ชาวบ้านบนเกาะได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สอบถามข้อมูล โทรศัพท์ 08 1093 1443, 08 9018 0644

 

เกาะกระดาด

เกาะกระดาด

ภาพจาก ททท.

เกาะกระดาด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก มีพื้นที่ 1,200 ไร่ เป็นเกาะกลางทะเลกว้างที่มีสัณฐานแบนราบราวกับแผ่นกระดาษ และมีต้นกระดาดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า “เกาะกระดาด” นับเป็นเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีการออกโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อีกทั้งยังเป็นเกาะที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ซึ่งเป็นเกาะกระดาดมีหาดทรายยาวขาวสะอาด มีแนวปะการังที่สวยงามตลอดชายฝั่ง บนเกาะมีที่พัก แต่ช่วงเวลาที่เหมาะท่องเที่ยว คือ ช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม เพราะมีคลื่นลมน้อยที่สุด
สำหรับสิ่งที่เหมือนเป็นไฮไลท์ของเกาะกระดาน คือ มีฝูงกวางนับพันตัวอาศัยอยู่อย่างเสรี ทำให้เพลิดเพลินกับการนั่งรถไถนาชมสวนสัตว์เปิดแบบซาฟารีจริง ๆ ไม่แปลกที่ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นเหมือนสวนสัตว์เปิดกลางทะเลที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมฝูงกวางออกมาเดินอวดโฉม คือ เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. หรือไม่ก็เป็นช่วงเช้าที่แสงแดดไม่แรงจะเหมาะสมแก่การเที่ยวชมฝูงสัตว์มากที่สุด

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

ภาพจาก http://travel.kapook.com/view82712.html

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สอง ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ รวม 42 เกาะ และนับว่าเป็นหมู่เกาะที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลอ่าวไทย ดังสมญานามว่า “อ่างทองของอ่าวไทย” ลักษณะทั่วไปของหมู่เกาะอ่างทองจะเป็นเกาะหินปูนสูงชัน

สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่ เกาะวัวตาหลับ เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ ด้านหน้าที่ทำการเป็นหาดทรายขาวสะอาด และใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีถ้ำบัวโบก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายบัวบาน ถัดไปมีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางเดินประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำสีครามเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม, ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะ นับเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ทะเลในมีลักษณะเป็นวงรี กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร ลึก 7 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ นั่งเรือยนต์จากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาณ 15 นาที และเดินเท้าตามทางเดินสู่จุดชมวิวอีก 400 เมตร จะเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลในสีเขียวมรกต รวมทั้งเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเปิดซึ่งโอบรอบด้วยโขดเขาและแมกไม้ปกคลุม

เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังและดอกไม้ทะเลที่สวยงามยาว 1 กิโลเมตร มีสะพานหินธรรมชาติยื่นโค้งออกไปในทะเล จากเกาะสามเส้าจะมองเห็นประติมากรรมธรรมชาติคล้ายปราสาทหินตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาของเกาะแม่เกาะ นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมบนเกาะได้ แต่ต้องเตรียมอาหารและน้ำจืดมาเอง, เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง อยู่เลยจากเกาะแม่เกาะไปทางเหนือ เป็นจุดที่มีแนวปะการังที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง และเกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามและยาวที่สุดในอุทยานฯ  สภาพรอบเกาะสวยงามประกอบด้วยแนวหินที่มีรูปร่างคล้ายแผ่นหินบาง ๆ ซ้อนขึ้นมาเหมือนประติมากรรม

เกาะมุก-ถ้ำมรกต

เกาะมุก ถ้ำมรกต

ภาพจาก ททท.

เกาะมุก และ ถ้ำมรกต นับเป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ลักษณะของเกาะทางด้านทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้าออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเกาะไว้อย่างดี สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ และทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมุกมีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเล ซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ การเข้าชมภายในถ้ำจะต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป ระยะทาง 80 เมตร บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต ดูแปลกตาและมหัศจรรย์ในความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้าง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน นั่งเล่นน้ำได้ ทั้งนี้ เกาะมุกมีที่พักเอกชนบริการ สามารถเดินทางจากตัวเมืองตรัง ซึ่งมีท่าเรือไปชมเกาะมุกอยู่ 2 แห่ง คือ ท่าเรือปากเมง และท่าเรือควนตุ้งกู หรือจะเลือกใช้บริการแพ็กเกจทัวร์แบบวันเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีรายการเที่ยวเกาะมุกชมถ้ำมรกตให้ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

คุณอาจจะใช้ป้ายกำกับและคุณสมบัติHTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>

Free Web Hosting